Meta Tags ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO ต้องเคยได้ยินและได้เจอกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ทำการตลาดออนไลน์ต้องมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเรื่องนี้กันให้มากขึ้นเลยค่ะเพราะวันนี้ทาง A day Marketing จะพาไปรู้ทุกเรื่องของ Meta Tags ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย!
Meta Tags คืออะไร
Meta Tags คือ ข้อความที่เป็นตัวอักษร มีหน้าที่อธิบายคอนเทนต์ในเว็บเพจหน้านั้นว่าคืออะไร เกี่ยวกับอะไร จะปรากฏเฉพาะหน้า Source code ของเว็บเท่านั้น ไม่ปรากฏอยู่ภายในหน้าเว็บไซต์ โดย Search engines จะใช้ Meta Tags เพื่อตัดสินว่า เว็บเพจนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร แล้วจะดึงข้อมูลจาก Meta Tags มาแสดงผลบนหน้าผลการค้นหา (Search Engine Result Page) เมื่อมีคนเสิร์ชหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ Meta Tags นั้น ๆ
Meta Tags มีมากมาย หลายประเภท มีหน้าที่ช่วยจัดอันดับ SEO และนำไปใช้งานแตกต่างกันไป มาดูกันดีกว่าว่า Meta tags นั้น มีอะไรบ้าง
Title Meta Tags
คือ ชื่อเพจหรือข้อมูลที่แสดงผลตรงด้านบนสุดของเว็บเบราว์เซอร์ และยังแสดงผลตรง Headline บน Search engines สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์จะเข้าใจได้ทันทีว่าเว็บเพจที่แสดงผลในหน้าค้นหานั้น คืออะไร เกี่ยวกับอะไร และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขากำลังค้นหาอยู่หรือไม่ สิ่งนี้จึงควรคิดและวางแผนว่าจะเขียน Title Meta Tags อย่างไร ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
Meta Description
คือ ข้อมูลที่สรุปโดยย่อเนื้อหาทั้งหมดของเว็บเพจนั้นๆ โดยจะแสดงอยู่ในหน้า Search engines เป็นรายละเอียดด้านล่าง
ต่อจาก Headline หรือ Title Meta Tags
โดยทั่วไปแล้ว Meta Description ควรอธิบายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ทันทีจึงต้องสรุปเฉพาะข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายค้นหาจริงๆ
Meta Tags อื่นๆที่ควรรู้จัก
- Alternative Text (ALT) Tag
คือ tag ที่ใช้ในภาพควรใส่คำที่เกี่ยวข้องกับภาพ ความยาวตัวอักษรจะอยู่ระหว่าง 50 – 55 ตัวอักษร - Meta Viewpoint
คือ Tag ที่ช่วยกำหนดพื้นที่ในการแสดงเว็บเพจให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน Meta Tag ตัวนี้ ช่วยจัดอันดับบนหน้าค้นหา เพราะ Google จะให้คะแนนเว็บไซต์ที่ออกแบบ UX รองรับกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งาน - Meta Charset
คือ ตัวอักษรเข้ารหัสในหน้าเว็บเพจ ช่วยให้ตัวอักษรหรือข้อความแสดงบนหน้าเว็บได้อย่างถูกต้อง
Meta Tags เขียนอย่างไรให้ดีต่อ SEO
Meta Tags ส่งผลให้อันดับการค้นหาเว็บไซต์ของคุณดีขึ้นได้ในกรณีที่ CTR เพิ่มขึ้น แน่นอนว่า Meta Tags ที่ดี ก็มีส่วนกระตุ้นให้คนอยากจะคลิกเข้ามายังเว็บไซต์เราเช่นกัน การเขียน Meta Tags ที่ดึงดูดและน่าสนใจจะเน้นไปที่ Title Meta Tags และ Meta Description
วิธีเขียน Title Meta Tags
Title Meta Tags ที่ดีควรเขียนกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายคลิกเข้ามาอ่านนั้น ต้องมีลักษณะ ดังนี้
- Headline ควรเขียนใจความสำคัญหรือเนื้อหาภาพรวมของเว็บเพจ
- ควรระบุ Keyword ไว้ในช่วงต้นๆ ของ Headline เพื่อให้ตรงกับการค้นหา
- ควรใส่ชื่อแบรนด์ของคุณต่อท้ายข้อความ Headline ทุกครั้ง ในกรณีที่พอมีพื้นที่เขียนได้อยู่
- เน้นเนื้อหาสั้น กระชับ ได้ใจความ
- ‘ดึงดูด’ ให้คนคลิก ไม่ ‘หลอกล่อ’ ให้คลิก
วิธีเขียน Meta Description
การเขียน Meta Description ให้น่าอ่าน และทำให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น มีดังนี้
- ในเว็บเพจแต่ละหน้าควรมี Meta Description เฉพาะของเว็บเพจหน้านั้นๆ
- สรุปเนื้อหาภาพรวมให้กระชับและชัดเจน
- ควรมี Keyword อยู่ใน Meta Description โดยเนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายกำลังค้นหา
- ควรมี CTA หรือ Call-to-Action เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้ว่าต้องทำอะไร และจะได้อะไรจากการคลิกเข้าไปในเว็บไซต์
- ‘ดึงดูด’ ให้คนคลิก ไม่ ‘หลอกล่อ’ ให้คลิก
สรุปแล้ว Meta Tags ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ง่ายขึ้น Meta Tags มีหลากหลายประเภท แต่ก็มี Meta Tags บางตัวเท่านั้นที่ต้องใส่เข้าไปทุกครั้งในการสร้าง Organic traffic ทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพและตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
ข้อมูลอ้างอิงจาก : https://contentshifu.com/blog/what-are-meta-tags#Meta_Tags