หลายๆคนอาจจะรู้ว่าการทำคอนเทนต์นั้นก็เหมือนกับการที่เราต้องการจะเล่าสิ่งต่างๆ ประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ การแนะนำสิ่งต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของเราเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น ได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจ หรือได้รู้จักกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น ซึ่งการเขียนคอนเทนต์นั้นจะถูกจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อการหาของผู้อ่าน แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่ายังมีการแบ่งลักษณะของคอนเทนต์อีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมใช้แต่คนมักจะไม่ค่อยรู้ถึงจุดประสงค์จริงๆของคอนเทนต์ชนิดนี้ นั่นก็คือ Evergreen Content วันนี้ Aday Marketing จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับ Evergreen Content มากขึ้น ไปอ่านต่อกันได้เลย!
Evergreen Content คืออะไร?
Evergreen Content เป็นประเภทหนึ่งของคอนเทนต์ที่เต็มไปด้วยคุณค่า และทันสมัย จนได้รับความสนใจ และถูกค้นหาอยู่ตลอดเวลา นิยามคอนเทนต์ประเภทนี้ได้ว่า เป็นคอนเทนต์ที่คนจะกลับมาอ่านเรื่อยๆ แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตามแต่ตัวเนื้อหาก็ยังคงสดใหม่ มีความเหนือกาลเวลา เปรียบเสมือนความเขียวขจีของป่าไม้ ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง การเขียนคอนเทนต์ที่สดใหม่ตลอดเวลาอาจจะฟังดูยาก แต่ในความจริงไม่ได้ยากขนาดนั้น เราสามารถนำเรื่องใกล้ตัวมาเขียนได้อย่างมากมาย เพราะหลักสำคัญคือ Evergreen Content ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่อยู่ในกระแส หรือเป็นเรียลไทม์ แต่มักจะเป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับประเด็นที่เป็นพื้นฐานความสนใจในชีวิตประจำวันทั่วไปของคนมากกว่า
6 ตัวอย่าง Evergreen Content ยอดนิยม
o ประเภทสอนการใช้งาน (How-to): รวมความรู้หรือประสบการณ์ของผู้เขียน และสรุปออกมาเป็นรูปแบบ Step by Step มีวิธีการเป็นข้อๆ เข้าใจง่ายสามารถเอากลับไปใช้ทำตามได้จริง
o ประเภท Review: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการศึกษาหาข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า
o ประเภทคำแนะนำ (Guildline) : เพื่อแนะนำผู้อ่านทราบข้อมูลรายละเอียด แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ เป็นบทความที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
o ประเภท Checklists : เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่เน้นการเปรียบเทียบข้อมูลของสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่ 2 สิ่งขึ้นไป เพื่อให้เห็นความเหมือนหรือความต่างของสิ่งเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
o ประเภท Tips & Tricks : รวมเกร็ดสาระ ความรู้ เทคนิคต่างๆที่ช่วยให้ผู้อ่านใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น หรือลดปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
o ประเภทคำถามที่พบบ่อย (FAQs) : นำเอาคำถามคำตอบที่เกี่ยวกับเรื่องหรือเนื้อหานั้นๆมารวบรวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อง่ายต่อการให้คำตอบของผู้อ่าน
แต่ความยากของคอนเทนต์ประเภทนี้ คือ เป็นคอนเทนต์ที่ต้องอาศัยความรู้ การอ่านค้นคว้าหาข้อมูล และประสบการณ์ของผู้เขียนเป็นอย่างมาก เพราะคอนเทนต์ประเภทนี้สามารถเก็บเป็นบทความที่คนจะกลับมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ เรื่องอะไรก็ตามที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไป 1 วัน หรือ 1 ปี คนก็ยังคงจะสนใจคอนเทนต์นั้นๆ อยู่ เหมือนนิยายหรือหนังสือยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ได้รับการพูดถึงและถูกเอามาแชร์อยู่เสมอ การที่เว็บไซต์ หรือบล็อกของเรามี Evergreen Content ก็จะเพิ่มโอกาสที่คนจะเสิร์ชเจอบทความเรา ทำให้เข้ามาแชร์และแบ่งปันคอนเทนต์เหล่านั้น อย่างสม่ำเสมออีกด้วย
Evergreen Content มักจะถูกแชร์เข้าไปผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook หรือ Instagram เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ให้ทั้งสาระ และประโยชน์กับผู้อ่าน ช่วยแก้ปัญหาบางอย่างให้กับผู้อ่านได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการเข้าชมบนเว็บไซต์และเปลี่ยนให้ผู้อ่านกลายเป็นลูกค้าของธุรกิจได้
ความสำคัญของ Evergreen Content
Evergreen Content มีส่วนช่วยให้เว็บไซต์ หรือบทความของเราติดอันดับบนหน้า Search Ranking ได้ดีกว่า ความต่อเนื่องของผู้อ่านที่เข้ามาชม ส่งผลในการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์เพราะคอนเทนต์แบบ Evergreen ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ยังเป็นคอนเทนต์ที่มีคนเข้ามาอ่าน เพราะเป็นเนื้อหาที่อ่านเมื่อไรก็ทันสมัยอยู่เสมอ จะอัพเดตอีกครั้งก็ต่อเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม ส่งเสริมให้ข้อมูลเก่ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
องค์ประกอบสำคัญของ Evergreen Content
- Timeless มีคุณค่าเหนือกาลเวลา
คอนเทนท์ลักษณะนี้ มักจะเน้นเรื่องของ how to, วิธีแก้ปัญหา, ประวัติความเป็นมา, หลักการ, ทฤษฎีต่างๆ เป็นต้น ให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังมีความต้องการเข้ามาเสพเนื้อหาอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น “วิธีการสร้างสารบัญอัตโนมัติในงานวิจัย”เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ไม่รู้วิธีการสร้างสารบัญอัตโนมัติในโปรแกรม Microsoft Word ซึ่งจริงๆแล้วการทำสร้างสารบัญอัตโนมัติ จะมีขั้นตอนต่างๆที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยมาก อาจจะมีปรับเปลี่ยนนิดหน่อยตามการอัพเดทโปรแกรมของ Microsoft Word ดังนั้นถ้าทำคอนเทนท์เรื่องนี้ ก็จะมีคนเข้ามาอ่านคอนเทนต์ของเรายาวๆเรื่อยๆ จนกว่าประเทศไทยจะไม่มีนักศึกษานั่นเอง
- ทันสมัย แต่ไม่ใช่กระแส
Evergreen Content ไม่ใช่คอนเทนต์ที่ต้องการกระตุ้นให้คนอยากรู้แค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ เหมือน Breaking News หรือ Talk of the Town ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ หรือเป็นเหตุการณ์ที่กำลังฮิตเป็นกระแสไวรัล ซึ่งปกติแล้วคอนเทนต์แบบนี้จะถูกนำเสนอในรูปแบบของข่าว หรือที่เรียกกันว่า Topical Content
ข้อดีของ Evergreen Content
o เหมาะสำหรับการทำ SEO เพราะจะช่วยดึง Traffic ให้เข้าเว็บเราได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เพราะ มีคน Search หาข้อมูลอยู่เรื่อยๆ
o สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เพราะคอนเทนต์ประเภทนี้เป็นการให้ความรู้เป็นหลักอยู่แล้ว ทำให้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ว่า ธุรกิจของเรามีความเชี่ยวชาญในด้านจริง ๆ
ข้อเสียของ Evergreen Content
o ใช้เวลาค่อนข้างนานในการผลิตคอนเทนต์ประเภทนี้ เพราะต้องรวบรวมข้อมูลให้ถูกต้องและเรียบเรียงออกมาให้ครอบคลุมครบถ้วน
o ในระยะเวลาสั้นๆจะไม่สามารถเพิ่ม Traffic คนเข้าใช้งานแพลตฟอร์มได้มากเท่ากับคอนเทนต์ตามกระแส
หลังจากอ่านบทความของ ADAY Marketing แล้วคงจะเข้าใจถึงความสำคัญของ Evergreen Content กันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ หลายๆคนอาจจะเป็นกังวลในการเขียนคอนเทนต์ประเภทนี้เพราะต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ในการเขียนเป็นอย่างมาก แต่ ADAY Marketing ของเรามีความเชี่ยวชาญในการสื่อสารตัวตนของแบรนด์ด้วยคอนเทนท์ที่ดึงดูดผู้บริโภคให้จดจำ เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณและกลุ่มเป้าหมาย
ขอบคุณที่มาจาก
.
จุดเริ่มต้นก้าวสำคัญของคุณ…ให้เราดูแลที่ ADAY Marketing
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.adaymarketing.com/